การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
1.
คำที่ลงท้ายด้วย -tion อย่าออกเสียงว่า
ชั่น ให้ออกเสียงว่า เฉิ่น เช่น nation อย่าออกเสียงว่า
เนชั่น ให้ออกเสียงว่า เน้เฉิ่น
2.
คำที่ลงท้ายด้วย -ing อย่าออกเสียงว่า
อิ้ง ให้ออกเสียงว่า อิ่ง เช่น going อย่าออกเสียงว่า
โกอิ้ง ให้ออกเสียงว่า โก๊อิ่ง
3.
คำที่ลงท้ายด้วย -er/-or อย่าออกเสียงว่า
เอ้อ ให้ออกเสียงว่า เอ่อ เช่น teacher และ color อย่าออกเสียงว่า ที้ชเช่อร์ คัลเล่อร์
ให้ออกเสียงว่า ที้ชเฉ่อร์ คั้ลเหล่อร์
4.
คำที่ลงท้ายด้วย -ment อย่าออกเสียงว่า
เม้นท ให้ออกเสียงว่า เหม่นท เช่น comment อย่าออกเสียงว่า
คอมเม้นท ให้ออกเสียงว่า ค้อมเหม่นท
5.
คำที่ลงท้ายด้วย -ty -ly -ry อย่าออกเสียงว่า
ตี้ ลี่ รี่ ให้ออกเสียงว่า ถี่ หลี่ หรี่ เช่น city
lovely very อย่าออกเสียงว่า ซิตี้ เลิ้ฟลี่ เวรี่ ให้ออกเสียงว่า ซิถี่ เลิ้ฟหลี่
เฟ้หรี่
6. คำว่า is/was ถ้าอยู่ในประโยค อย่าออกเสียงว่า อี้ส กับ ว้อส
ให้ออกเสียงว่า อิ่ส และ เวิ่อส
ตัวอย่างประโยค
He is a very good teacher teaching at a university in the city
center.
She was a lovely manager working in an apartment near the train
station.
เสียงเน้นหนักในคํา คือ การเน้นเสียงหนักในพยางค์หนึ่งของคําโดยที่ผู้พูดจะออกเสียงพยางค์นั้นดังกว่าพยางค์อื่น
ๆ ในคําเดียวกัน เช่น páper, contínue เป็นต้น
คําในภาษาอังกฤษทุกคําจะมีพยางค์หนึ่งเท่านั้นที่ได้รับเสียงหนักเสมอ ผู้เรียนจึงจําเป็นที่จะต้องเรียนรู้ถึงการออกเสียงเน้นหนักในแต่ละคําให้ถูกต้องเสียก่อน
หลักเกณฑ์สําหรับการลงเสียงเน้นหนักในคํา
(Word Stress) และในพยางค์(Syllabic
Stress) ดังนี้
1.
การลงเสียงเน้นหนักในคําที่มี 2 พยางค์ขึ้นไปในคําสองพยางค์ขึ้นไปเสียงเน้นหนักสุดจะได้แก่
primary stress เสียงที่รองลงมาจะเป็น secondary stress ดังตัวอย่างต่อไปนี้คําที่มีเสียงเน้นหนักสุดหรือ
primary stress บนพยางค์ต้นของคําได้แก่
คําสองพยางค์ คําสามพยางค์
คําสี่พยางค์
húsband possible criticism
ańswer télephone specialist
prógram ánimal sécretary
órange innocent
súbject beautiful
คําที่มีเสียงเน้นหนักสุดหรือ primary stress บนพยางค์ที่สองของคํา
คําสองพยางค์ คําสามพยางค์
คําสี่พยางค์
cashíer proféssor affirmative
helló relátion philósopher
prefér impórtant development
corréct eléven significant
resígn phonetic
ระดับเสียงสูงต่ำในประโยคอย่างถูกต้อง
การเน้นเสียงในประโยค ในประโยคจะมีการเน้นเสียงหลายจุด
ยกเว้นคำที่เป็น pronoun และ preposition และคำท้ายสุดของประโยคจะมีการเน้นเสียงหนักสุด
ที่เรียกว่า เสียงเน้นหลัก(Primary Stress)
เช่น
If you don't want to add a poll to your topic.
If you don't want to add a poll to your topic.
I don't think that control is in OPEC's hands.
อ่านเป็น I don't think that control is in OPEC's hands.
เสียงสูงต่ำ ท้ายประโยค
เสียงสูงต่ำท้ายประโยคขึ้นอยู่กับความหมายของประโยค โดยประโยคธรรมดา
ลงเสียงต่ำ
I like coffee ลงเสียงต่ำที่คำว่า coffee อ่าน คอป-ฟี
ประโยคคำถาม
ที่ถามว่า ใช่หรือไม่ ขึ้นเสียงสูง (รวมถึงประโยคที่เป็น tag question)
Do you like coffee? ขึ้นเสียงสูงตรงคำว่า cofee อ่าน คอป-ฟี้
ประโยคคำถาม
ลงเสียงต่ำ
What do you like ? ลงเสียงต่ำตรงคำว่า like อ่าน ไหลค์
สำหรับประโยคเดียวกัน
ที่ออกเสียงต่างกัน จะทำให้ความหมายต่างกัน เช่น
Do you like tea or coffee?
ถ้าพูด คำว่า coffee ลงเสียงต่ำ
ประโยคนี้จะมีความหมายว่า "อยากได้ ชาหรือกาแฟ
ถ้าพูด คำว่า coffee ขึ้นเสียงสูง
ประโยคนี้จะมีความหมายว่า "อยากได้ ชาหรือกาแฟไหม